ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับพันธมิตรทางธุรกิจ

ประกาศนโนบายความเป็นส่วนตัว สำหรับพันธมิตรทางธุรกิจ

(Privacy Notice for Business Partner)

 

1. ข้อความเบื้องต้น

 

1.1 ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับพันธมิตรทางธุรกิจนี้  อธิบายวิธีการที่บริษัท นิวทรีชั่น เอสซี จำกัด (มหาชน) (ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “บริษัทฯ”” หรือ “เรา”)  เก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ผู้รับจ้าง บุคลากร ผู้ที่มีอำนาจ กรรมการ ผู้ถือหุ้น และ ผู้ติดต่ออื่นๆ (“ท่าน” หรือ “ของท่าน”) ของพันธมิตรทางธุรกิจของเรา (เช่น ผู้จัดหาผลิตภัณฑ์/บริการ (Supplier) ผู้ขาย (Vendor)  ผู้ให้บริการและผู้รับจ้าง (Service Provider and Outsourcer)) (แต่ละรายเรียกว่า “พันธมิตรทางธุรกิจ”)  ซึ่งรวมถึงข้อมูลของบุคคลที่สามใดๆ ที่ท่านให้ไว้กับเราเพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

1.2 ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ใช้กับช่องทางการสื่อสารทั้งออนไลน์หรือออฟไลน์ที่เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ว่าต่อหน้า จากสถานแสดงสินค้าเพื่อจำหน่าย (Showroom) โรงงาน สถานประกอบการของเรา งานกิจกรรม ทางโทรศัพท์ ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (Call Center) หรือทางออนไลน์ผ่านทางอีเมลหรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย (เช่น Webpage Facebook หรือ Line) และช่องทางอื่นใดที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ

 

1.3 เพื่อวัตถุประสงค์ของประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ตามที่นิยามไว้ในกฎหมายที่ใช้บังคับ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคลแบบทั่วไปและข้อมูลส่วนบุคคลแบบอ่อนไหว

 

1.4. บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าความเป็นส่วนตัวของท่านจะได้รับความคุ้มครองและเพื่อให้มั่นใจว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง (ซึ่งอาจมีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือมีการออกกฎหมายใหม่เพื่อใช้บังคับแทนเป็นครั้งคราว) เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศ ที่เราเข้าไปและมุ่งหมายจะเข้าไปดำเนินธุรกิจ  บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามประกาศความเป็นส่วนตัวนี้เท่านั้น

 

1.5. โปรดอ่านเนื้อหาต่อไปนี้อย่างระมัดระวังเพื่อทำความเข้าใจมุมมองและการปฏิบัติของเราฃเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและวิธีการที่เราจะประมวลผลข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลบางประการเกี่ยวกับท่านมีความจำเป็นหรือถูกบังคับตามกฎหมายในด้านความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่เรามีอยู่ในปัจจุบันและอาจมีขึ้นในอนาคต หากท่านไม่ตกลงที่จะให้ข้อมูลดังกล่าว เราจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่หรือภาระผูกพันของเราแก่ท่านได้

 

1.6. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ โดยมีดุลยพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการปรับเปลี่ยน แก้ไข ลบ และปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว บริษัทฯ จะใช้ความพยายามตามสมควรเพื่อแจ้งให้ท่านทราบและในลักษณะที่เหมาะสมถึงการปรับเปลี่ยนสำคัญที่มีต่อข้อกำหนดใดก็ตามในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ (เช่น จัดส่งนโยบายที่แก้ไขให้ท่านทางอีเมล พร้อมระบุวันที่มีผลบังคับครั้งใหม่ หรือประกาศข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทางเว็บไซต์ของเรา)

 

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากท่าน

เราอาจมีการเก็บรวบรวมหรือรับข้อมูลประเภทดังต่อไปนี้  ซึ่งอาจรวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงหรือโดยอ้อมจากท่านหรือแหล่งข้อมูลอื่นๆ จากหน่วยงานรัฐบาล หรือจากแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่นๆ ทั้งนี้  ตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจมีการเก็บรวบรวมมีดังนี้

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งรวมถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านที่ท่านให้ไว้กับเราด้วยการสื่อสารกับเราหรือข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมจากท่าน ข้อมูลดังกล่าวอาจรวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะ

(ก) ข้อมูลที่ระบุตัวตน เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น เพศ อายุ วันเกิด สัญชาติ สถานภาพการสมรส รูปถ่าย ข้อมูลเกี่ยวกับงาน (เช่น ตำแหน่ง ประเภทของผลิตภัณฑ์และบริการ บริษัทที่ท่านทำงานให้ หรือได้รับการจ้างงาน หรือที่ท่านมีหุ้นส่วน) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบอนุญาตทำงาน หรือเอกสารระบุตัวตนอื่นที่คล้ายกันที่ออกโดยรัฐบาล ลายมือชื่อ บันทึกจากกล้องวงจรปิด ข้อมูลยานพาหนะ (เช่นสำเนาใบคู่มือจดทะเบียนยานพาหนะ หมายเลขทะเบียนรถ ยี่ห้อ และสี) ข้อมูลทางการเงิน (เช่นชื่อบัญชีและหมายเลขสมุดบัญชีธนาคาร) และเอกสารระบุตัวตนอื่น

(ข) ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่ไปรษณีย์ สถานที่ทำงาน ที่อยู่อีเมล Line ID และข้อมูลอื่นที่คล้ายกัน

(ค) ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น ศาสนาที่ระบุในบัตรประจำตัวประชาชน เชื้อชาติในเอกสารการยืนยันตัวตน ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ การจดจำใบหน้า หรือข้อมูลการจดจำม่านตา) และประวัติอาชญากรรม

(ง) ข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ เช่น ตำแหน่งยานพาหนะ และ/หรือ อุปกรณ์ และ/หรือ อุปกรณ์สื่อสาร และ/หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (ซึ่งรวมถึงข้อมูลลองจิจูด/ละติจูด ตำแหน่งของเมือง และถนน)

(จ) พฤติกรรมการขับขี่ยานพาหนะ เช่น ความเร็วที่ใช้ในการขับขี่ยานพาหนะ พฤติกรรมการเหยียบเบรก

(ฉ) ข้อมูลอื่น ๆ ที่เก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเราและพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น ข้อมูลที่ท่านให้ไว้ในสัญญา แบบฟอร์ม แบบสำรวจต่าง ๆ หรือ เอกสารต่าง ๆ

 

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น เช่น ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ตัวแทน/ผู้แทน ผู้รับผลประโยชน์ ผู้ค้ำประกัน พยาน หรือคู่กรณี ซึ่งรวมถึง ชื่อ อีเมล ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์/โทรศัพท์มือถือของบุคคลดังกล่าว และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับบุคคลใดที่ท่านได้ให้ไว้แก่เราในทุกรูปแบบ

ในการให้ข้อมูลของบุคคลที่สามแก่เรา ท่านรับรองและรับประกันว่าท่านมีอำนาจในการกระทำดังกล่าว และอนุญาตให้เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายส่วนบุคคลนี้ นอกจากนี้ ท่านยังมีหน้าที่ในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น หากจำเป็น

แม้ว่าข้อมูลใดภายใต้ข้อ 2. อาจไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล แต่ถ้ารวมกับข้อมูลอื่นหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลดังกล่าวอาจใช้ระบุตัวตนท่านได้ จึงถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลได้เช่นกัน ดังนั้น เราจะปฏิบัติกับข้อมูลนี้โดยใช้มาตรฐานเดียวกับข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม หากเราประมวลผลข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้หรือในรูปแบบที่รวมผลข้อมูลซึ่งไม่สามารถระบุตัวตนท่านได้อีกต่อไป ในกรณีนี้ ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้จะไม่ใช้บังคับ

 

3. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและฐานทางกฎหมาย

บริษัทฯ และบุคคลที่สามที่อาจกระทำการแทนเรา อาจเก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ได้อธิบายไป โดยอาศัยฐานทางกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

 

3.1  ฐานความยินยอม (Consent) หรือฐานความยินยอมโดยชัดแจ้ง (Explicit Consent)

เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ดังจะกล่าวต่อไปนี้ ซึ่งเป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องการขอความยินยอม ซึ่งได้แก่  ศาสนาที่ระบุ (ในบัตรประจำตัวประชาชน) เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบและยืนยันตัวตน เชื้อชาติ (ในเอกสารยืนยันตัวตน) เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบและยืนยันตัวตน ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ การจดจำใบหน้า หรือข้อมูลการจดจำม่านตา) เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบและยืนยันตัวตน  ประวัติอาชญากรรม เพื่อความมั่นคง ปลอดภัย และการป้องกันประโยชน์ของเรา หรือประโยชน์ของบุคคลที่สาม ทั้งนี้ หากฐานทางกฎหมายคือความยินยอม ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมได้ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้และภายใต้กฎหมายที่ใช้บังคับ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้มาโดยอาศัยความยินยอมของท่านก่อนที่จะถอนความยินยอม

 

3.2  ฐานสัญญา (Contract)

หากบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด หรือเพื่อเข้าทำหรือปฏิบัติตามสัญญาที่บริษัทมีกับท่าน แต่ท่านไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทเมื่อบริษัทร้องขอ บริษัทอาจไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ตามที่ระบุข้างต้นได้ และในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่านในการดำเนินกิจกรรมที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านในเรื่องดังกล่าวเป็นรายกรณีไป เช่น

(ก) การคัดเลือกพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อประเมินความเหมาะสมและท่านสมบัติของท่านและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อการอำนวยความสะดวกในการร่วมประมูล เพื่อออกคำขอใบเสนอราคา และเพื่อทำสัญญากับท่านและพันธมิตรทางธุรกิจ

(ข) วัตถุประสงค์ทางธุรกิจ เพื่อการติดต่อ ริเริ่ม หรือบริหารความสัมพันธ์เชิงสัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสื่อสารกับท่านและพันธมิตรทางธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ เพื่อดำเนินธุรกรรมที่ทำขึ้นโดยพันธมิตรทางธุรกิจ (เช่น การนำส่ง การแลกเปลี่ยนและส่งคืนสินค้า การออกใบแจ้งราคาและใบเสร็จรับเงิน) และเพื่อปฏิบัติตามภาระผูกพันและ/หรือตามคำขอของพันธมิตรทางธุรกิจ

(ค) การบริหารความสัมพันธ์ เพื่อสร้างรหัสผู้ขาย เพื่อจดทะเบียนในรายชื่อ / สารบบของพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้บริการสนับสนุน ติดตามและจัดทำบันทึก เพื่อให้บัตรเข้าออกอาคารและบัตรจอดรถแก่ท่าน และเพื่อเชิญพันธมิตรทางธุรกิจเข้าร่วมงาน / กิจกรรมต่าง ๆ

(ง) การจดทะเบียนและยืนยันตัวตน เพื่อจดทะเบียน ตรวจสอบ ระบุตัวตน และพิสูจน์ยืนยันตัวท่านหรือตัวตนของท่าน

(จ) การสื่อสารด้านการตลาด เพื่อแจ้งข้อมูลให้ท่านทราบเกี่ยวกับการสื่อสารด้านการตลาด กิจกรรมต่างๆ การขาย การประชาสัมพันธ์ การบอกกล่าว ข่าวสาร การส่งเสริมการขาย ข้อเสนอพิเศษ การจัดแสดงสินค้า การจัดซื้อและการสนับสนุน กิจกรรมพิเศษ และการตลาดแบบตรง

(ฉ) การดำเนินธุรกิจ เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยการเก็บรักษาบันทึกภายใน การจัดการภายใน การสอบบัญชี การรายงาน การส่งหรือยื่นข้อมูล การประมวลผลข้อมูล หรือกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องหรือคล้ายกัน

 

3.3  ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)

เช่น เพื่อให้วัตถุประสงค์ให้เกิดความปลอดภัย ป้องกันความเสี่ยง แก้ไขความขัดแย้ง เพื่อบันทึกและจัดการข้อพิพาท หรือเพื่อดำเนินการป้องกันอาชญากรรมหรือการทุจริต เป็นต้น

 

3.4  ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)

เราใช้ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามภาระผูกพันที่กฎหมายกำหนด สิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายที่ใช้บังคับ รวมถึงกฎหมายนอกประเทศที่ท่านอาศัยอยู่ เพื่อประเมินการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ กฎระเบียบ ข้อบังคับ และนโยบายและกระบวนการภายใน และเพื่อดำเนินการตามการสอบสวนที่เจ้าหน้าที่รัฐกำหนด

 

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลที่สาม

 

4.1 เราอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในเครือข่ายของบริษัทฯ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้อธิบายข้างต้น เราจะดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวเพื่อให้แน่ใจว่าการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลจำกัดเฉพาะพนักงานและ/หรือตัวแทนของ บริษัทฯ เท่านั้นโดยอาศัยพื้นฐานของความจำเป็นต้องรู้ข้อมูลเท่านั้น

 

4.2 เราอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเครือข่ายของ บริษัทฯ ให้แก่บุคคลต่อไปนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายนี้

(ก) ภายในกลุ่ม บริษัทแม่ และบริษัทในเครือ เนื่องจากบริษัทฯ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทที่ร่วมมือกัน และแบ่งปันบริการและระบบของพันธมิตรทางธุรกิจบางส่วนร่วมกัน ซึ่งรวมถึง บริการและระบบที่เกี่ยวกับเว็บไซต์ เราอาจจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรืออนุญาตให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้นแก่บริษัทอื่นภายในกลุ่มเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทอื่นๆ ภายในกลุ่มสามารถอาศัยความยินยอมที่บริษัทฯ ได้รับมาจากท่าน

(ข) พันธมิตรทางธุรกิจ เราอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังพันธมิตรทางธุรกิจรายอื่น เพื่อประกอบธุรกิจและบริการ โดยที่พันธมิตรทางธุรกิจผู้รับข้อมูลนั้นตกลงที่จะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการที่สอดคล้องกับนโยบายส่วนบุคคลนี้

(ค) ผู้จำหน่ายและตัวแทนขายที่ได้รับการแต่งตั้ง ในบางครั้ง บริษัทฯ อาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกับผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการที่ท่านเลือก หรืออยู่ใกล้กับท่าน เพื่อให้บริการแก่ท่าน

(ง) ผู้ให้บริการ / ผู้จัดหาผลิตภัณฑ์/บริการ / ผู้รับจ้างช่วง เราอาจใช้บริการของบริษัท ตัวแทน หรือผู้รับจ้างอื่นในการให้บริการแทนเราหรือเพื่อสนับสนุนความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับท่าน เราอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับผู้ให้บริการหรือผู้จัดหาผลิตภัณฑ์/บริการจากภายนอกของเรา ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ (1) ผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศ (2) ผู้ให้บริการวิเคราะห์หรือทำวิจัย (3) บริษัทที่ให้บริการวิเคราะห์เชิงสถิติ (4) บริษัทที่ให้บริการสำรวจ (5) บริษัทที่ให้บริการการตลาด สื่อโฆษณา การออกแบบ การสร้างสรรค์ และการสื่อสาร  (6) ผู้จัดแคมเปญ งานกิจกรรม และการตลาด (7) ผู้ให้บริการด้านการบริหารที่ว่าจ้างจากภายนอก  (8) ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์ และ (9) ผู้ให้บริการอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกันและผู้ให้บริการภายนอกอื่นที่ให้ความช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ ของเรา

(จ) ที่ปรึกษาจากภายนอก ซึ่งรวมถึงทนายความ ช่างผู้ชำนาญการเฉพาะด้าน ผู้ให้คำปรึกษาด้านภาษี และผู้ตรวจสอบบัญชีซึ่งช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจของเรา หรือการต่อสู้หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของเรา

(ฉ) บุคคลที่สามที่กฎหมายกำหนด ในบางกรณี เราอาจต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ ซึ่งรวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย (เช่น กรมการขนส่งทางบก กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) ศาล ผู้บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานรัฐบาล หรือบุคคลที่สามอื่น ๆ หากเราเชื่อว่ามีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามภาระผูกพันตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ หรือต้องปกป้องสิทธิของเรา สิทธิของบุคคลที่สาม หรือความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง หรือความปลอดภัย

(ช) โรงพยาบาลและหน่วยกู้ภัย อาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีฉุกเฉินเพื่อปกป้องประโยชน์ของท่าน

(ซ) ผู้รับโอนสิทธิและ/หรือภาระหน้าที่บุคคลที่ 3 ในฐานะผู้รับโอนสิทธิ ในกรณีที่มีการฟื้นฟูกิจการ การควบรวมกิจการ การโอนธุรกิจ ไม่ว่าส่วนหนึ่งหรือทั้งหมด การขาย การซื้อ การร่วมลงทุน การมอบ การโอน หรือการจำหน่ายส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของธุรกิจของเรา ทรัพย์สินหรือหุ้น หรือธุรกรรมที่คล้ายกัน ทั้งนี้ บุคคลที่สามในฐานะผู้รับโอนสิทธิของเราจะปฏิบัติตามประกาศความเป็นส่วนตัวนี้เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(ฌ) แหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ เช่น เว็บไซต์ โฆษณา และ/หรือแพลตฟอร์ม Social Media

 

4.3 ตราบเท่าที่กฎหมายอนุญาต บริษัทฯ จะไม่มีความรับผิดใด ๆ ทั้งสิ้นอันเกิดจากการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบุคคลที่สาม ดังนั้นโปรดตรวจสอบประกาศความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สามดังกล่าวเพื่อทำความเข้าใจว่าบุคคลเหล่านั้นใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

 

4.4 เว้นแต่ที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ เราจะไม่เปิดเผย ขาย จำหน่ายจ่ายโอน เช่าหรือให้เช่าซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลที่สาม เว้นแต่เราจะได้รับอนุญาตจากท่าน หรือเป็นการทำเพื่อทำได้ธุรกรรมที่มีอยู่ให้กับท่านเสร็จสมบูรณ์

5. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างประเทศ

 

5.1 บริษัทฯ  อาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากท่านไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้อง บริษัทในกลุ่ม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุข้างต้น เราอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สามที่อยู่ต่างประเทศตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ ประเทศที่เราอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรวมถึงและแต่ไม่จำกัดแค่สหรัฐอเมริกา หรือญี่ปุ่น โดยการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอาจทำได้เมื่อได้รับความยินยอมของท่านเท่านั้น เว้นเสียแต่ว่าจะอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นได้ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดแห่งสัญญาระหว่างเราและบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน) ตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาตให้สามารถกระทำได้โดยได้รับยกเว้นไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน

 

5.2 ในกรณีที่ประเทศปลายทางที่รับข้อมูลอาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่า  ตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยกำหนด  หากเราจะทำการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทางที่มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงพอเท่ากับมาตรฐานภายใต้กฎหมายที่ใช้บังคับ เราจะดำเนินการที่จำเป็นเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนให้กับบุคคลอื่นในต่างประเทศเพื่อให้ได้รับการคุ้มครองในระดับเดียวกับที่เราคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และให้เป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะนั้น

 

6. ระยะเวลาที่เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผลเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ หากมีการดำเนินการทางกฎหมายหรือทางวินัย อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้จนกว่าการดำเนินการนั้นจะสิ้นสุด ซึ่งรวมถึงระยะเวลาที่เป็นไปได้ในการยื่นอุทธรณ์ หลังจากนั้นข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกลบหรือเก็บถาวรตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาต

 

7. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย

บริษัทฯ มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่เก็บรวบรวมและได้รับอย่างปลอดภัย เราใช้มาตรการความปลอดภัยทางเทคนิค องค์กร การบริหารจัดการ และทางกายภาพในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในระบบของเราเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข ความเสียหาย และการลบข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือโดยปราศจากอำนาจ นอกจากนี้ เรายังจะตรวจสอบทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อจำเป็น หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เพื่อให้มีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เมื่อ บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะดำเนินการตามกระบวนการและมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยอย่างเคร่งครัดเพื่อพยายามป้องกันไม่ให้มีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

8. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในบางกรณี เราอาจขอให้ท่านยืนยันตัวตนของท่านก่อนที่ท่านจะใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้เพื่อความเป็นส่วนตัวและเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของท่าน โดยภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ใช้บังคับ และข้อยกเว้นภายใต้บทบัญญัตินั้น ท่านอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังนี้

 

8.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลหรือชี้แจงถึงการได้มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ความยินยอม โดยบริษัทฯ จะจัดเตรียมหรือจัดทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามช่องทางการสื่อสารของเรา ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอ หากเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามคำสั่งศาลหรือการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้น อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

 

8.2 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงเป็นปัจจุบัน ครบถ้วนสมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดยจะต้องนำหลักฐานหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดง หากบริษัทฯ เห็นว่าการขอแก้ไขข้อมูลนั้นไม่มีเหตุผลเพียงพอ บริษัทฯ จะปฏิเสธคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลและจะบันทึกเหตุผลในการปฏิเสธคำร้องขอไว้เป็นหลักฐาน

 

8.3  สิทธิในการลบ ทำลาย หรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอลบ ทำลาย หรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้โดยบริษัทฯ จะดำเนินการตามคำร้องภายใต้เงื่อนไข ดังนี้

  • เมื่อหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์

  • เจ้าของข้อมูลเพิกถอนความยินยอม และบริษัทฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  • เจ้าของข้อมูลคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติภารกิจของรัฐและเพื่อประโยชน์อันชอบธรรม และบริษัทฯ ไม่สามารถคัดค้านได้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอ ดังนี้

  • การเก็บรักษาไว้เพื่อความจำเป็นในการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

  • การเก็บรักษาไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ จดหมายเหตุ ฯลฯ

  • การเก็บรักษาไว้เพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ หรือปฏิบัติตามอำนาจรัฐที่บริษัทฯ ได้รับมอบหมาย

  • การเก็บรักษาข้อมูลที่มีความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ด้านเวชศาสตร์ป้องกัน อาชีวเวชศาสตร์ ประโยชน์ด้านการสาธารณสุขและอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด

  • การใช้เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย

 

8.4 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

กรณีเจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัทฯ  เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอเพิกถอนความยินยอมนั้นได้ โดยบริษัทฯ จะดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลแต่การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการอื่นใดที่ได้กระทำก่อนที่จะมีการใช้สิทธิเพิกถอนความยินยอมนั้น ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอ  หากมีข้อจำกัดสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมโดยกฎหมาย หรือ สัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

 

8.5  สิทธิในการขอรับหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง

เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอรับหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านหรือใช้งานจากเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทำงานได้โดยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอตรวจสอบการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ โดยมีเงื่อนไข ดังนี้

  • ต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  • การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจำเป็นต่อการให้บริการ หรือตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลและบริษัทฯ

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะปฏิเสธการขอรับหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล หากเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือในทางเทคนิคไม่สามารถดำเนินการได้โดยบริษัทฯ จะบันทึกเหตุผลในการปฏิเสธคำร้องขอไว้เป็นหลักฐาน

 

8.6  สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอห้ามมิให้บริษัทฯ  ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามเงื่อนไข ดังนี้

  • บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการ หากตรวจสอบได้ว่าข้อมูลนั้นถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว บริษัทฯ สามารถปฏิเสธคำร้องขอดังกล่าวได้

  • เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและเจ้าของข้อมูลไม่ได้ใช้สิทธิขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ แต่เจ้าของข้อมูลให้ระงับการใช้แทน ทั้งนี้บริษัทฯ จะปฏิเสธคำร้องขอดังกล่าว หากสามารถอ้างหลักฐานทางกฎหมายอื่นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  • เมื่อไม่มีความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้น แต่เจ้าของข้อมูลขอให้เก็บรักษาไว้ เพื่อการก่อตั้งสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

  • บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพิสูจน์เพื่อปฏิเสธการคัดค้านของเจ้าของข้อมูลตามสิทธิ

 

8.7 สิทธิในการคัดค้าน

เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

  • เพื่อการปฏิบัติภารกิจของรัฐและเพื่อประโยชน์อันชอบธรรม ทั้งนี้ บริษัทฯ จะปฏิเสธการคัดค้าน หากพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญกว่าหรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

  • เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะปฏิเสธการคัดค้าน หากมีความจำเป็นในการดำเนินตามภารกิจ เพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ

ทั้งนี้  บริษัทฯ จะบันทึกเหตุผลในการปฏิเสธคำร้องขอไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ หากไม่เข้าข้อยกเว้นการปฏิเสธการคัดค้านบริษัทฯ จะไม่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไป โดยจะแยกส่วนออกจากข้อมูลอื่นอย่างชัดเจน เมื่อเจ้าของข้อมูลได้แจ้งการคัดค้าน ให้บริษัทฯ ทราบ

 

8.8  สิทธิการได้รับแจ้งข้อมูล

เจ้าของข้อมูลมีสิทธิจะได้รับแจ้งข้อมูล กรณีที่บริษัทฯ ได้รับข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง หรือได้รับจากบุคคลที่สาม ตามช่องทางสื่อสารของบริษัทฯ

 

8.9  สิทธิในการร้องเรียน

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

 

อนึ่ง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำร้องขอในกรณีดังต่อไปนี้

(ก) กฎหมายกำหนดให้สามารถดำเนินการได้

(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อ หรือบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้

(ค) ผู้ยื่นคำร้องไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นเจ้าของข้อมูลหรือเป็นผู้มีอำนาจในการยื่นคำร้องขอ ดังกล่าว

(ง) คำร้องขอดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล เช่น กรณีที่ผู้ร้องขอไม่มีสิทธิตามกฎหมาย หรือไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ที่บริษัทฯ  เป็นต้น

(จ)  คำร้องขอดังกล่าวเป็นคำร้องขอฟุ่มเฟือย เช่น เป็นคำร้องขอที่มีลักษณะเดียวกันหรือเนื้อหาเดียวกันซ้ำ ๆ กันโดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นต้น

(ฉ)  บริษัทฯ อาจกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามคำร้องขอใช้สิทธิตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด

 

อนึ่ง  บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลบางประการจากท่านเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่านและรับรองสิทธิของท่านในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (หรือเพื่อใช้สิทธิอื่นใด) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการความปลอดภัยที่จะทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว

บริษัทฯ จะใช้ความพยายามในการตอบกลับคำขอที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดภายใน 30 วัน ในบางกรณี บริษัทฯ อาจใช้เวลามากกว่า 30 วันหากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งคำขอ ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบและจะทำการแจ้งสถานะของคำขอให้ท่านทราบอยู่เสมอ

 

9. ติดต่อเรา

กรณีพบเหตุอันควรสงสัยหรือเชื่อว่ามีการละเมิดการข้อมูลส่วนบุคคล การร้องเรียน หรือการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้ หรือตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562  หรือสอบถามข้อสงสัย  สามารถติดต่อกับเราได้ที่

 

บริษัท นิวทรีชั่น เอสซี จำกัด
47/2 หมู่ 6 ถ.พุทธมณฑลสาย 4 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม 73220
เบอร์โทร +662-840-4333
Email : dpo@nutritionsc.co.th

Visitors: 36,550